Search

ปรัชญากฎหมายไทยหลังยุคปฏิรูปการปกครองไทยต่อยุคประช...

  • Share this:

ปรัชญากฎหมายไทยหลังยุคปฏิรูปการปกครองไทยต่อยุคประชาธิปไตย (สมัย ร.5 ถึงก่อนการปฏิวัติ 2475)

ปรัชญากฎหมายแบบตะวันตกที่นำเข้ามาโดยกรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ก็มีการแพร่การรับรู้มากขึ้นเรื่อย ๆ โดยผ่านทางโรงเรียนกฎหมาย ภายหลังสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) เมื่อมีการผลิตตำราหรือวารสารทางกฎหมายเผยแพร่เพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตามในสมัยพระบาทสมเด็จพระมงุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 6) นั้นให้ความสำคัญต่อกฎหมายในเชิงจารีตประเพณีหรือประเพณีนิยม ซึ่งรัชกาลที่ 6 ชี้ถึงความคิดในเชิงปฏิบัตินิยมมากกว่าอุดมคตินิยม แนวความคิดของรัชกาลที่ 6 นั้นจะสอดคล้องกับแนวความคิดของสำนักกฎหมายประวัติศาสตร์ ซึ่งจะเห็นได้จากจุดยืนทางความคิดแบบชาตินิยมหรืออนุรักษ์นิยมของรัชกาลที่ 6 และความเชื่อมของจุดยืนกับความคิดด้านกฎหมายผัวเดียว เมียเดียว ที่กรมพระสวัสดิ์วัตน์วิศิษฐ์ อธิบดีศาลฎีกาเกี่ยวการยกเลิกระบบผัวเดียว หลายเมีย ซึ่งเป็นวัฒนธรรมทางกฎหมายของไทยโบราณ
แนวความคิดของรัชกาลที่ 6 ได้สะท้อนจุดยืนทางความคิดแบบอนุรักษ์นิยมและชาตินิยมอย่างชัดเจน ดังคำขวัญที่พระองค์คิดค้นขึ้นแพร่หลาย คือ อุดมการณ์ “ชาติ–ศาสนา–พระมหากษัตริย์” ในฐานะอุดมการณ์แห่งชาติทรงย้ำความสำคัญของการรักษาเอกลักษณ์แห่งความเป็นชาติไทยและคนไทย พร้อมกับการปรามเรื่องการเลียนแบบฝรั่งในทำนองเป็นการกระทำของผู้ที่ต่ำต้อยกว่า ข้อสำคัญอย่างยิ่งคือ ทรงเห็นว่า การปกครองแบบรัฐสภาและมีรัฐธรรมนูญนั้นไม่เพียงเป็นการทำลายเอกภาพของชาติเท่านั้น หากเป็นการแสดงออกถึงการเป็นทาสของการเลียนแบบตะวันตกอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม แม้รัชกาลที่ 6 จะทรงพยายามเหนี่ยวรั้งระบบราชาธิปไตยเอาไว้ แต่พระประสงค์หรือพระราชดำรัสของพระองค์ก็มีสภาพเป็นกฎหมายอันศักดิ์สิทธิ์น้อยลงมาโดยเปรียบเทียบกรณีการแก้ไขกฎหมายผัวเดียว เมียเดียว คงเป็นตัวอย่างหนึ่ง เนื่องจากพระองค์ไม่ทรงประสบความสำเร็จในการทัดทานการแก้ไขกฎหมายนี้ เจตจำนงหรือพระประสงค์ของพระองค์ก็มิอาจแปรความให้เป็นกฎหมายเสมอไป อิทธิพลแห่งวัฒนธรรมตะวันตกทั้งด้านสังคมและกฎหมายได้เข้ามามีอิทธิพลต่อการกำหนดรูปร่างหรือธรรมชาติของกฎหมายและการขยายตัวซึ่งความคิดหรืออุดมการณ์เชิงความคิดของกฎหมายมากขึ้นในหมู่ชนระดับล่าง
ที่น่าสนใจอย่างมาก คือ กระแสความคิดเช่นนี้ได้รับการเหนี่ยวรั้งในท่ามกลางความไม่มั่นคงของพระราชอำนาจที่เพิ่มมากขึ้น ควบคู่ไปกับการเจริญเติบโตของนักปรัชญากฎหมาย ปฏิฐานนิยมของตะวันตกบนบริบททางสังคมการเมืองที่ยังล้าหลังอยู่ หลังสิ้นยุคสมัยรัชกาลที่ 6 กระแสความเคลื่อนไหวการเปลี่ยนแปลงของสังคมมากขึ้น และที่สำคัญหลังจากสงครามโลกครั้งที่ 1 ในสมัยรัชกาลที่ 6 ที่ผ่านทำให้เศรษฐกิจของรัฐไทยสมัยนั้นทรุดหนักและมาตกต่ำในสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 7)


Tags:

About author
not provided
ปัจุบัน พ้นจากการโมฆะบุรุษ รองศาสตราจารย์ประจำ คณะนิติศาสตร์
View all posts